เฟด แนวโน้มการออกคิวอี3 (QE3) กับค่าเงินบาท การส่งออกไทย
เฟด แนวโน้มการประกาศลดมาตรการคิวอี (QE) กับค่าเงินบาท
ที่ผ่านมา เฟด (Federal Open Market Committee) หรือคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ ได้ดำเนินการมาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณทางการเงิน (QE) ด้วยการเข้าไปซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน (Financial assets) ด้วยการสร้างเงินใหม่ๆ เพื่อที่จะอัดฉีดปริมาณเงินที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเข้าสู่ระบบการเงินของประเทศ ซึ่งจะเป็นการไปเพิ่มทุนสำรองส่วนเกิน (excess reserves ) ของระบบธนาคารและจะเข้าไปยกระดับราคาสินทรัพย์ทางการเงินที่ซื้อมาซึ่งมีผลตอบแทนต่ำ ซึ่งในรอบปีนี้เฟดได้ใช้มาตรการ QE1 และ QE2 ไปแล้ว
นักเศรษฐศาสตร์ ออกมาเตือนภาครัฐและภาคธุรกิจ เตรียมแผนรับมือวิกฤติยุโรป หลังจากที่สหรัฐใช้มาตรการQE1 และ QE2 ไปแล้วแต่ยังไม่ได้ผลมาก หวั่นว่าจะออกมาตรการ QE3 อย่างแน่นอน คาดส่งผลเงินไหลเข้าเอเชียกระทบค่าเงินบาท เงินทุนไหลออกอีกระลอก ผู้ส่งออกยังต้องระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพียงแต่โดยภาพรวมแล้ว นักลงทุนยังมองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยในมุมที่ดี และไทยเราก็อยู่ในภลุ่มภูมิภาคที่ยังมีการเติบโตอยู่ ดังนั้นทิศทางเงินบาทจากนี้คงผันผวน แต่เชื่อว่าระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่นักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ระยะยาวค่าเงินบาทอาจกลับไปเคลื่อนไหวที่ระดับ 35 – 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วงก่อนที่เฟดจะเริ่มใช้มาตรฐการคิวอี โดยภายหลังจากที่เฟดเริ่มมาตรการดังกล่าว ก็จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จนระดับการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจนมีระดับการแข็งค่าต่ำสุดที่ 28-29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามในระยะสั้นคาดว่าเงินบาทจะผันผวนอยู่ในระดับ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
วิกฤติเศรษฐกิจหนี้ยุโรปธุรกิจเสี่ยงล้มกิจการ
ถึงแม้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงมีความแข็งแกร่งแต่จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างชะลอตัว ในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวได้อย่างล่าช้าและการลงทุนยังไม่เกิดมากนัก ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ตื่นตระหนกขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่จะเทขาย ทรัพย์สินออกมาก่อน แล้วค่อยมองปัจจัยและเมื่อสถานการณ์นิ่งนักลงทุนคงกลับมามองที่พื้นฐานและอาจจะกลับมาลงทุนใหม่อีก สถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปอาจใช้เวลานานกว่าจะจบ และจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม แนะผู้ส่งออกลดรายจ่าย หาตลาดใหม่ และหาสินค้าใหม่ตรงตามความต้องการตลาด พร้อมเน้นความเชื่อมั่น เช่น ส่งสินค้าได้ตามเวลา อุปสรรคของผู้ส่งออกในขณะนี้คือผู้ซื้อปลายทางมีการขยายเวลาชำระสินค้า (เก็บเงินได้ล่าช้า) ทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขคาดว่าอาจมีการล้มกิจการ
โค้งสุดเท้ายของปี 2556 ยุคโลกาภิวัตน์ หรือที่เรียกอีกว่าอย่างว่า “โลกไร้พรมแดน” จากสถานการณ์ในต่างประเทศ ทั้งกรณีที่เฟดหรือธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศว่า เฟดอาจต้องมีการลดมาตรการคิวอี (QE) รวมถึงสถานการณ์ร้อนอย่างข่าวรัฐบาลซีเรียอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน ต้องยอมรับว่าเราต้องเกาะติดสถานการณ์ เพราะล้วนส่งผลกระทบต่อตลาดทุน ตลาดเงิน การส่งออก จำเป็นที่เราต้องเกาะติดสถานการณ์ เพื่อที่จะสามารถปรับตัวทัน เพราะมันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง