ค่าเงินบาท : มาตรการ 7 7 8
หลังจากที่ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ออกมาตรการเพิ่มปริมาณเงิน หรือ QE ของประเทศ ทำให้เกิดการไหลของเงินทุน ส่งผลต่อค่าเงินบาท ตลาดทุน จนหลายฝ่ายหวั่นวิตก เพราะได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ได้แต่เฝ้ารอ เมื่อไหร่หนอ มาตรการป้องกันที่เตรียมประกาศออกมาเพื่อป้องกันการไหลของเงินลงทุนในตราสารหนี้ และ ตราสารทุน ดังกล่าว วันนี้ (29 พฤษภาคม 2556) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.75 เป็นร้อยละ 2.50 ต่อปี มีผลทันที
สรุปสาระสำคัญ กระทรวงการคลังแก้กฎคุมเงินเข้าออก ประกาศเป็นกฎกระทรวง และออกมาตรการหรือเครื่องมือให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) นำไปใช้ควบคุมเงินไหลเข้าออก ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ 2556 ขณะที่การดำเนินการมาตรการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รัฐบาลตั้งเป้าหมายทำให้เศรษฐกิจปี 2556 ขยายตัวของ GDP 5% และการส่งออกขยายตัว 9% กำหนดแนวทางปฏิบัติออกมาเป็น 22 มาตรการ หรือ 7 7 8 ประกอบด้วย
7 มาตรการด้านการเงิน
7 มาตรการด้านการคลัง
8 มาตรการเฉพาะด้าน
มาตรการ 7 7 8 มีอะไรบ้าง?
7 มาตรการด้านการเงิน
1.การซื้อขายเงินตราต่างประเทศในอัตราแลกเปลี่ยน
2.การดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจ (ล่าสุด กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.5 แล้ว)
3.มาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟองสบู่ในภาคส่วนต่างๆ
4.พิจารณามาตรการจำกัดเงินทุนไหลเข้าอย่างระมัดระวังเมื่อจำเป็น
5.การบริหารจัดการเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งทุนสำรองมีจำนวนที่สูงมากจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่ง
6.การช่วยเหลือภาคเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท
7.การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน
7 มาตรการด้านการคลัง
1.การกำกับดูแลการเบิกจ่ายงบประมาณ
2.ดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ การลงทุนระบบน้ำ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนด้านการขนส่ง
3.กำหนดให้รัฐวิสาหกิจชำระหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้เงินตราต่างประเทศ
4.ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างภาษี
5.สนับสนุนด้านสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยต่ำ
6.ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนไปลงทุนในต่างประเทศในธุรกิจที่เหมาะสม
7.การส่งเสริมการออม และการประกันภัย
8 มาตรการเฉพาะด้าน
1.การยกระดับรายได้ทางการเกษตร เช่น การรับจำนำข้าว 22 ล้านตัน บัตรเครดิตเกษตร (ดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
2.เพิ่มสัดส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็น 40% ของ GDP (กระทรวงการคลัง)
3.ขยายการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (กระทรวงอุตสาหกรรม)
4.เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 24.7 ล้านคนในปี 2556 และเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่าในปี 2558 (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
5.ตั้งเป้าหมายการขยายตัวการส่งออกในปี 2556 ที่อัตรา 9% (กระทรวงพาณิชย์)
6.มีแหล่งพลังงานที่มั่นคงในราคาที่เหมาะสม
7.ยกระดับเทคโนโลยีและการเข้าถึงบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
8.สร้างรายได้และกำลังซื้อ ลดต้นทุนประกอบอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อย (กระทรวงการคลัง)
ความเสี่ยง
- ความเสี่ยงจากสงครามค่าเงินจากต่างประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการ QE เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบยุโรป มีสภาพคล่องส่วนเกินระบบ ไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง สรุปเงินทุนเคลื่อนย้ายใน 3 ไตรมาสติดต่อกัน สูงขึ้นเท่าตัว ในประเทศไทยพบว่ามีการลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล
- เศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังฟื้นตัวอย่างอย่างล่าช้า จีน ยุโรป สหรัฐฯ ยังปรับตัวอย่างล่าช้า
- เศรษฐกิจในภูมิภาคในแถบเอเชียก็ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
- พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลายๆ ประเทศ เช่น ยุโรป อินเดีย เกาหลีใต้ เวียดนามฯลฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก
- อุตสาหกรรมส่งออกได้รับผลกระทบ