มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ยักษ์การเงินญี่ปุ่น เตรียมเทกโอเวอร์กิจการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
“มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ” เตรียมเทกโอเวอร์กิจการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สื่อญี่ปุ่น หลายสำนัก รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 ระบุว่า ทางมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชี่ยล กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคาร “แบงค์ ออฟ โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เตรียมเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาของไทย หรือมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านเยน (ราว 1.23 แสนล้านบาท) เพื่อขยายฐานธุรกิจของเอ็มยูเอฟจี ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงภายในช่วงต้นเดือน กรกฎาคม 2556 นี้
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ตั้งอยู่ย่านชิโยดะในกรุงโตเกียว และมีฐานะเป็นกลุ่มการเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่ครอบครองไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 53 ล้านล้านบาท) ได้เตรียมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยาจากบรรดาผู้ถือหุ้น รวมถึงบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) แห่งสหรัฐ ที่ถือหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยาอยู่ร้อยละ 25 ในขณะนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกของญี่ปุ่นเข้าควบคุมธนาคารขนาดใหญ่ในส่วนที่เหลือของเอเชีย ในขณะที่ธนาคารต่างๆ ของญี่ปุ่นเน้นดำเนินกิจการ ในการให้กู้ยืมแก่บริษัทของญี่ปุ่นเป็นหลัก
รายงานของดาวโจนส์ ระบุ ในชั้นแรก เอ็มยูเอฟจี จะซื้อหุ้นของกลุ่มจีอี แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ “จีอี” ทั้งหมด 25% ที่มีอยู่ในธนาคารกรุงศรีอยูธยา จากนั้นจะเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมด แต่จะพยายามรักษาผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่น คือหุ้นของตระกูลรัตนรักษ์ ที่ถือหุ้น 22% ไว้เป็นหุ้นส่วน
ความคืบหน้าการเจรจา
ล่าสุดทางกระทรวงการคลัง และ แบงค์ชาติ ระบุยังไม่ได้มีการยื่นคำขออนุญาต (application) การเข้าถือหุ้นในธนาคากรุงศรีอยุธยา ไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการหารือเรื่องดังกล่าวประมาณ 2 รอบแล้ว แต่ดีลยังไม่จบ เพราะถ้ากลุ่มใดเข้ามาถือหุ้นธนาคารพาณิชย์เกินกว่า 10% ก็จำเป็นต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
วิเคราห์ผลกระทบหากบรรลุผลการเจรจา
บอร์ดบริหารของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เตรียมส่งบุคคลที่มีความเหมาะสมจำนวนหลายรายเข้ามานั่งในบอร์ดบริหารของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังไม่แน่ชัดว่า หลังจากที่ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เข้ามาบริหารแล้ว จะมีการปรับโครงสร้างองค์กรที่อาจมีผลกระทบต่อ ตำแหน่งงาน ของพนักงานหรือไม่